วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

โอลิมปิกเกมส์

โอลิมปิกเกมส์
ถ้าแม้ว่าไม่รู้ตันกำเนิดที่แน่นอนของโอลิมปิกที่ในอดีต แต่เรารู้ว่าชาวกรีกสมัยก่อนมีงานฉลอง ซึ่งนักกีฬาแข่งขันกีฬากัน การเลี้ยงฉลองนี้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุก
4 ปี เปิดสำหรับผู้ชายและเด็กทกคนที่พูดภาษากรีกเป็นภาษาพื้นเมือง เกมส์ต่างๆในสมัยก่อนง่ายกว่าเกมส์สมัยปัจจุบัน เป็นเวลา 1 เดือน ก่อนถึงการแข่งขัน นักกีฬาต้องเข้าหลักสูตรการออกกำลังที่เป็นแบบแผนที่โรงยิมในเมืองโอลิมเปีย การแข่งขัน
จะประกอบด้วยการแข่งขันวิ่งเดี่ยวต่อมางานแข่งรวมถึงกีฬา เช่น การกระโดด
มวยปล้ำ การขว้างจักร และการแข่งม้า
เกมส์โอลิมปิกยุคต้นๆเป็นที่นิยมมากที่สุดประมาณศตวรรษที่ 5
ก่อนคริสตศักราชในยุคนั้น การชนะกีฬาจะนำความเกียรติสูงสุดต่อผู้แข่งขันแต่ละคน
ครอบครัวและเมืองของเขา ผู้ชนะเกมส์ไม่ได้ รับทองหรือเงินแต่จะได้มงกุฎธรรมดา
ทำด้วยใบมะกอก ต่อมาอย่างไรก็ตาม เมื่อชาวกรีกเริ่มมีการจ่ายเงินให้กับนักกีฬาก็มีปัญหาเกี่ยวกับลักษณะของการเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้แทนที่จะเข้าร่วมในกีฬาทุกประเภท ผู้เข้าแข่งขันเริ่มชำนาญเฉพาะอย่าง นั่นคือ พวกเขาเริ่มเน้นเกมส์โอลิมปิกเพียงอย่างเดียว เนื่องจากความสนใจในเรื่องเงินและความชำนาญเฉพาะของนักกีฬามากขึ้น เกมส์สมัยก่อนได้สูญเสียวัตถุประสงค์เดิม เกมส์สมัยก่อนก็จบล้มเลิกใน A.D.393
ครั้งแรกของโอลิมปิกสมัยใหม่เกิดขึ้นในประเทศเดิมเหมือนกับการแข่งขันแบบเดิม มีนักกีฬา 285 คน จาก 13 ประเทศ แข่งขันในเมืองเอเธนส์ ปี 1896 ปัจจุบันนักกีฬาเป็นพันๆคน มาจากมากกว่า 100 ประเทศมาแข่งขัน
แต่ละครั้งในเมืองที่แตกต่างกันของโลก เกมส์เป็นที่แพร่หลายและป็นการแข่งขันที่ตื่นตาตื่นใจ เป็นช่วงการแข่งเกมส์โอลิมปิกที่พิเศษน่าตื่นเต้นมากมาย ซึ่งคนทั่วโลกมีส่วนร่วมด้วยการอ่านเรื่องราวในหนังสือพิมพ์ ดูภาพยนตร์ หรือดูเหตุการณ์จริงๆ ในทีวีหรือมาชมเองป็นส่วนตัว
ตัวอย่างเช่น ในปี 1904 นักวิ่งชาวคิวบา ชื่อ ฟิสิกส์ คาวาใจ ทำเงินหานในมืองนิวโอลีนและไม่มีเงินจ่ายค่ารถไฟไปยังเซนต์หลุยส์ รัฐมิตซูรี ซึ่งมีการเล่นเกมส์เกิดขึ้น ถึงกระนั้นก็ตาม เขาได้ร่วมในเกมส์มาราธอน 26 ไมล์
ในการแข่งขันเข้าต้องวิ่ง 700 ไมล์ เขาประสบผลสำเร็จในเกมส์มาราธอนได้
อันดับ 4 นักวิ่งอีกคนซึ่งเป็นชาวอเมริกันผิวดำชื่อ เจสซี่ โอเว่น ชนะได้ 4 เหรียญทอง และหัวใจของชาวโลกในโอลิมปิกปี 1936 ในเบอร์ลิน ในขณะที่เขาได้รับเหรียญ ผู้ปกครองเยอรมันในสมัยนั้นคือ อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ได้จ้องมองอย่างเย็นชาในขณะมอบเหรียญให้นักกีฬา
สงครามระหว่างเมืองกรีกได้หยุดเกมส์ต่างๆ ในสมัยก่อนเพียง 2 ครั้ง
ใน 1000 ปีการเมืองแทบจะไม่เข้ามาแทรกแซงในเกมส์โอลิมปิก ต่อมาเกมส์ต่างๆบ่อยมากกว่าในช่วงปกครองของ ฮิตเลอร์ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้หยุดการเฉลิมฉลองโอลิมปิกในปี 1916 และเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันในปี 1940 และ 1944 เนื่องจากการแบ่งแยกสีผิวของนักกีฬาในอัฟริกาใต้ถูกกีดกันเป็นเลาหลายปี และเกมส์ในปี 1972 เมืองมูนิค ผู้ก่อกรร้ายการเมืองจากตะวันออกกลางได้ฆ่านักกีฬาชาวยิว 17 คน ตั้งแต่นั้นมาประเทศต่างๆได้หลีกเลี่ยงเกมส์เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง
นอกจาการเมืองแล้วก็ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับนักกีฬาที่มาแข่งขันในเกมส์
บางคนได้ใช้ยาหรือสารเคมีที่ผิดกฎหมาย ยิ่งกว่านั้นในการฉลองชาวกรีกสมัยก่อน
มีปัญหาเพิ่มขึ้นกับระบบอาชีพของนักกีฬาปัจจุบัน โดยทั่วไปเราคิดว่ามีแต่สมัครเล่นที่มาแข่งขันในโอลิมปิกเท่านั้น การแบ่งที่แน่นอนระหว่างสมัครเล่นและมืออาชีพ กลายมาเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ผู้เล่นและผู้ชมวิตก
เกี่ยวกับอนาคตของเกมส์โอลิมปิก


ที่มา : หนังสือ ติวเตอร์กุ้ง
(The Best Center)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น